อาทิตย์คล้อยต่ำ ลานพระบรมรูปยังคงชื้นแฉะทั้งสถานที่และผู้คน ไฟนีออนเริ่มเปิดไล่กันไปที่ละเต็น กิจกรรมและการปราศัย เสียงตีนตบทดังแปะๆ ยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง ยิ่งเย็นย่ำลานพระรูปยิ่งคึกคักขึ้น พี่น้องเสื้อแดงยังมาสมทบจากต่างจังหวัดอีกหลายสิบคันรถ และบางส่วนก็มาจากในกรุงเทพนี่เอง
ท้องร้องแล้วขาก็เมื่อล้าเสื้อผ้าก็ยังเปียกชื้น ถึงเวลาต้องพัก ผมหยุดทานก๋วยเตี๋ยวที่ร้านมุมถนนท้ายลานพระบรมรูป เป็นเก้าอี้ตัวแรกที่ผมได้นั่ง และผมคิดว่ามีอีกหลายคนเลยที่หาที่นั่งไม่ได้ บางคนต้องนั่งที่เปียกๆ เปื้อนๆ ไม่รู้อยู่ชุมนุมกันได้อย่างไร จะกินจะเดินจะนั่งจะนอน ลำบากไปหมด ไม่คุ้มน่ะถ้ารับค่าจ้างมา 500 ค่ากินค่าอยู่ เดินทาง ซื้อของซื้อเสื้อผ้า หมวก ตีนตบ
อิ่มท้องแล้วก็มีกำลังเดินต่อไปนั่งฟังปราศัยใกล้ๆเวที เริ่มเปิดไฟกันแล้วทั้งบนเวทีและพระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นสถานที่ที่งดงามทรงคุณค่าจริงๆ
การปราศัยของแกนนำยังคงเรียกเสียงเฮ และเสียดแทงเข้าไปในหัวใจของผู้ฟังอยู่เสมอ จนบางคนก็แสดงอารมณ์ออกมาอย่างไม่อายสายตาใคร เต้นบ้าง ตะโกนบ้าง เชียบ้าง แต่ก็ไม่เป้นที่รำคาญของคนรอบข้างแต่อย่างใดเพราะต่างคนต่างใจเดียวกัน หัวเราะกันไป บ้างไม่รู้จักกันแต่ก็คุยกันเหมือนสนิทสนม
ด้วยพื้นที่ที่กล้างมากและคนฟังปราศัยก็มีจำนวนมาก ทำให้คนที่อยู่บริเวณกึ่งกลางต้องลำบากเวลา จะหาซื้ออะไรทาน หรือจะเข้าห้องน้ำต้องพยามลัดเลาะออกมา น่าเห้นใจ แต่ของกินหลายอย่างก้มีพ่อค้าแม่ขายเดินเข้ามาขาย delivery ถึงที่
ประมาณหนึ่งทุ่มครึ่งแล้วผมย้ายก้นมานั่งด้านข้างและจ่ายเงินซื้อแผ่นพลาสติกรองนั่ง 20 บาทได้เวลาของ ก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำที่ผมชื่นชอบอีกท่านนึง ที่มีบุคคลิคเหมือนนายแบ็งค์มาร์ดเนียบ แต่ปราศัยได้เจ็บกระดองใจป๋ามากทีเดียว คุณก่อแก้วปราศัยโดยกล่าวถึงความสูญเสียในด้านเศรษฐกิจ จากการทำรัฐประหาร จากค่ารัฐประหารกว่าพันล้านบาท จนถึงโอกาศด้านการลงทุนการท่องเที่ยวกว่า 9 แสนล้านบาท ที่ป๋าเป็นคนก่อขึ้น
ป๋าจะรับผิดชอบอย่างไร พร้อมกับมีมุขทะลึ่งๆตามสไตร์คุณก่อแก้ว แซวป๋าเรื่องรสนิยมทางเพศอีกทั้งยังเปรียบเทียบขนาดไอ้นั่นของอภิสิทธิ์ กับไอ้นั่นของณัตวุฒิ ให้คุณป้าหลายท่านหัวเราะกันคิกคักๆ แต่จบท้ายด้วยว่าขนาด ของใจ ก็โล่งอกไป
บรรยากาศโดยรอบก็แดงไปหมดครับเรียกว่ามอง 180 องศาก็เห็นไม่หมด ต้องมองในมุมสูงหรือ bird eye view กันครับถึงจะเห็นได้ตัว ที่เค้าว่ามดมันมองเห้นต่างจะคนยังไงก็ได้รู้วันนี้ หมอเหวงพูดอยู่บนเวทีประมาณจำนวนผู้ชุมนุมถึง 1 แสนคน ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจนัก ลองให้ท่านประเมิณดู พื้นที่ลานพระบรมจรดรั้วประมาณเท่าไหร่ และยังลากหางยาวออกไป ตามถนนออกไปอีก 200 เมตร คนที่ชุมนุมก็จะมีแบบมาแล้วก็กลับก่อน แล้วกลุ่มอื่นเข้ามาแทนก็มี แต่ ณ ตรงนี้พื้นที่ลานไม่ต่ำกว่า 5-6 หมื่นคน รวมๆ กลุ่มที่ไปบ้านป๋า และกลับไปก่อนผมคิดว่าก็ไม่น่าต่ำกว่า 7 หมื่น นี่สายตาผมน่ะครับ
การปราศัยวันนี้ถึงพริกถึงขิงครับ กิจกรรมทุกอย่างวางไว้เป้นเสต็ปๆ อย่างดี รวมถึงเนื้อหาการปราศัยด้วยอยู่ในเวลาเปะๆ จนมาถึงของหนักอย่าง จตุพร พรหมพัน คืนนี้ปราศัยได้โดดเด่นทีเดียว
จตุพรตอกย้ำว่าใครกันที่เป้นต้นตอของเรื่องทั้งหมด ใครคนนั้นจะต้องรับผิดชอบ และเป้นที่รังเกียจ จตุพรกล่าวขอร้อง ป๋าเปรมให้ไปตาย ป่วยตาย หรือเป้นอะไรตาย เพื่อเป้นการทำบุญให้แก่บ้านเมือง เรียกว่าด่าเป้นหมูเป้นหมาตั้งแต่ต้นยันจบ แต่มีสาระของประชาธิปไตยอยู่มาก และได้รับเสียงตอบรับ เสียงโห่ร้องจากผู้รักประชาธิปไตยสูงที่สุดของคืนนี้ ยอดเยี่ยมทีเดียว
นู๋ๆ ขยับนิดป้าลุกไปฉี่หน่อย เดี๋ยวนายกทักษิณจากมาแล้ว จองที่ไว้ให้ป้าด้วยน่ะ ครับผม รับปากไปแล้ว ก็ปกป้องที่ผ้าไว้เต็มที่ เดี่ยวป้ากลับมาไม่มีที่นั่งละยุ่งเลย
สามทุ่มโดยประมาณคุณวีระก็ออกมาปราศัยทำให้เรารู้ว่า นายกทักษิณจะมาแล้ว คุณวีระก็ตัดพ้อ หรือน้อยไจไม่ทราบ เพราะในช่วงที่ที่แกปราศัยท่ามกลางสายฝนพร้อมกับพี่น้องที่มาชุมนุม ไม่ได้ออกอากาศเพราะขัดข้องทางเทคนิค ไม่สามารถออกอากาศได้ แกเลยเซ็ง พูดคุยกันครื้นเครงไปสักพักเสียงของคนที่เรารออยู่ก็มาถึง เสียงตีนตบดังแปะๆ แสดงความดีใจ และต้อนรับบุคคลผู้นี้ ซึ่งเป้นใครไปไม่ได้ เค้าคือเสื้อแดงอันดับหนึ่ง เค้าคือนายกขวัญใจประชาชน นายกทักษิณ ชินวัตร
นายกทักษิณ video link มาแล้วพี่น้องก็จดจ่อฟังเป็นพิเศษ วันนี้พูดย้าวยาว แต่เนื้อหาแน่น ชัดเจนในจุดประสงค์ โดยหลักๆพูดถึงเหตุการณ์รัฐประหาร ที่ทำให้บ้านเมืองล้มเหลวและครอบครัวที่หนีภัยออกนอกประเทศ มีความพยามจะเข้าค้นบ้านท่าน แต่ท่านก็ได้รับความช่วยเหลือในระหว่างที่อยู่ UN จากเจ้านายประเทศนึงให้ใช้เครื่องบินส่วนพระองค์ เดินทางไปยังอังกฤษ ซึ่งเป็นที่ฉงนใจว่า ประเทศใด ประเทศไทยรึป่าวหว่า อ่ะๆ แล้วองค์ใหนล่ะ
จากนั้นท่านก็ประกาศเจนาว่าจะไม่เชคบิลไคร อโหศิกรรมทั้งหมด ไม่ต้องการให้บ้านเมืองแตกแยก และจะยึดหลักความปรองดองเป้นที่สำคัญที่สุด บ้านเมืองต้องการความจริง ความยุติธรรมและความปรองดอง เป็นสำคัญ เพราะมันจะจบได้ก็ด้วยความปรองดอง อยากไห้ทุกฝ่าย สร้างให้เกิดขึ้น เพื่อถวายเป้นพระโอสถอันวิเศษ แก่ในหลวงที่ทรงประชวรอยู่ขณะนี้ และตนเองพร้อมเจรจา
อีกทั้งโต้ข่าว สารพัดเกี่ยวกับตััวท่านว่าเป้นโรคนั้นโรคนี้สารพัด ด้วยอารมณ์ขันๆ เพราะโดนมาเยอะแล้วสุดท้ายความจริงก็แสดงออกมาเองให้คนพูดได้เสียเอง หลังๆท่านจึงตลกเสียมากกว่ากับข่าวพวกนี้
พอสรุปใจความได้ หลังจากท่านทักษิณ รำลากันก็ได้เวลาลุกสละที่นั่ง ไปตระเวณดูพี่น้องและบรรยากาศรอบกันแล้ว
เสื้อผ้า อุปกรณ์ชุมนุมมากมาย
แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยโดนใจผมเท่าไหร่ ก็จะซื้อเป้นบางชิ้น แต่จะชอบศิลปะที่ผู้ชุมนุมเอง พยามสื่อเป็นข้อความ สัญลักษณ์ รูป ต่างๆนา ออกมาเองจากความรู้สึก ความคิดของตัวเองเสียมากกว่า แต่ผมก็เสียดายที่แบตเตอรี่เริ่มหมดแล้ว ไม่ได้เก้บภาพผู้คนเหล่านั้นมาให้ท่านชม
ดูว่ามีอารมณ์ือย่างไร แต่งตัวอย่างไร กินอะไรทำอะไรอยู่
พระที่นั่งอนันตสมาคมยามค่ำคืน สวยงามมาก ทั้งรูปทรงลวดลาย แชะๆ
บริเวณด้านข้างของเวทีและหน้าเวทีจะแน่นมาก คราวหน้าใครอยากเห้นแกนนำชัดๆ ต้องจองที่ไว้ครับ อย่างตรงจุดที่ผมนั่งให้เวทีเหมือนไกล้ๆ แต่มองไม่เห็นหน้าแกนนำเลย
ถ่ายมุมนี้แล้วเหมือนงานพิธีศาสนาอะไรซักอย่าง
บรรยาการศโดยทั่วไป ชื่นมื่นครับ แต่มีความวิตกเรื่องคนแฝงมาสร้างสถานะการณ์อยู่บ้าง
สำรวจไปมาก็ขอแวะกินอะไรหน่อย ลูกชิ้นซํกสองสามไม้ ของว่างยอดนิยม
สี่ทุ่มแล้วคนยังเยอะอยู่เลย ทั้งไทย ทั้งเทศก็มี ฝรั่งไส่เสื้อแดงมาร่วมฟังปราศัยด้วยหลายคน ผมเดินไปกินไป พยามเดินให้ทั่วไม่ทันรู้ตัวออกถึงถนนท้ายลานพระบรมรูปแล้ว มองย้อนกลับมาทางพระที่นั่งแล้ว ไกลเหมือนกัน ดูแล้วเหมือนตลาดนัดไม๊ครับ
(มีต่อ)
บทความที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
โพสแล้วกรุณารับผิดชอบความคิดเห้นของท่านด้วยน่ะครับ